วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เรามาดูกันว่า 10อันดับของ วงดนตรีต่างประเทศในแนวเพลง Hardcore ของเขานั้นจะแกร่งและแข็งแรงอย่างไรในการร้องของเขาและความมีเสียงที่ทรงพลังมากที่สุด เชิญชมครับ


1.Sleeping with Sirens

 เป็นวงโพสต์ฮาร์ดคอร์ ของอเมริกาจาก ออร์แลนโด รัฐฟลอริดา โดยเริ่มฟอร์มวงในปี 2009 จากสมาชิกจากวง For All We Know ,บอร์ดเวย์ และ We Are Defiance และมาเซ็นสัญญากับค่าย Rise Records และเริ่มโปรโมตสองอัลบั้มเต็มของเค้า If You Were a Movie, This Would Be Your Soundtrack ซึ่งออกจำหน่ายในวันที่ 26 มิถุนายน 2012
โดยวงเริ่มมีชื่อเสียงมาจากนักร้องนำ Kellin Quinn ด้วยเสียงอันเป็นเอกลักษณ์โดยมีแรงบันดาลใจในเพลงมาจากการร้องแบบบทเพลงขอบคุณพระเจ้า และอัลบั้มแรกของเค้า With Ears to See and Eyes to Hear ออกจำหน่ายในวันที่ 23 มีนาคม 2010 และเข้าชาร์ต บิลบอร์ด ท็อปฮิตในอันดับที่ 7 และอันดับที่ 36 ของท๊อบชาร์ต อินดีเพนเด๊น ซึ่งอัลบั้มที่สองของพวกเค้า Let's Cheers to This ออกวางจำหน่ายในวันที่ 10 พฤษภาคม 2011 โดยเพลงแรก Let's Cheers to This ออกวางจำหน่ายในวันที่ 7 เมษายน 2011
2.pierce the veil
เป็นชาวอเมริกันเป็นวงโพสต์ไม่ยอมใครง่ายๆจากซานดิเอโกรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่เกิดขึ้นในปี 2007 กลุ่มที่ก่อตั้งขึ้นโดยพี่น้องวิคและไมค์ฟูหลังจากแยกย้ายของกลุ่มก่อนวันนี้ (เดิมในช่วงต้นไทม์ส) ซึ่งถูกสร้างขึ้นออกมาจากฉากหินซานดิเอโกพังก์ สมาชิกคนอื่น ๆ ของวงรวมถึงไจ Preciado (เบสและร้อง) และโทนี่เพอร์รี่ (กีตาร์) เพียร์ซปกคลุมได้เปิดตัวอัลบั้มที่สามสตูดิโอและได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาอย่างต่อเนื่องทัวร์ทั่วโลกหลายตั้งแต่การเปิดตัวของอัลบั้มเปิดตัวของพวกเขาถนัดสำหรับละครในปี 2007 วงออกสตูดิโออัลบั้มเต็มความยาวของพวกเขาที่สองชื่อเห็นแก่ตัวเครื่องในปี 2010 อัลบั้มที่สามและล่าสุดของพวกเขาชนกับสกายได้รับการปล่อยตัวในปี 2012 และเป็นอัลบั้มแรกของพวกเขาภายใต้ค่ายเพลงใหญ่ใจถึงประวัติ สตูดิโออัลบั้มที่สี่ของวงดนตรีที่มีการตั้งค่าที่จะออกในช่วงปลายปี 2014 ผ่านความกลัว


3.Bring Me The Horizon 

เป็นวงดนตรีแนวเมทัลคอร์สัญชาติอังกฤษมีต้นกำเนิดมาจากเมืองเชฟฟิลด์ เขตยอร์คเชียร์ ซึ่งได้เริ่มก่อตั้งวงกันขึ้นมาในปี 2004 โดยปัจจุบันพวกเขาได้เซ็นสัญญากับทางค่าย Visible Noise Recordsในสหราชอาณาจักร และ  Epitaph Records ในสหรัฐอเมริกา รวมถึง Shock Records ในออสเตรเลีย

BMTH เริ่มฟอร์มวงกันในปี 2004 ในช่วงเริ่มแรกทางวงได้เซ็นสัญญากับทางค่าย Thirty Days of Night Records และเป็นวงแรกที่เซ็นสัญญากับค่ายนี้
BMTHได้ออกอัลบั้มแรกของพวกเขาที่มีชื่อว่า Count Your Blessings ในเดือนตุลาคม 2006 ซึ่งวางแผงในสหราชอาณาจักร และในเดือนสิงหาคม 2007 ทางวงก็ได้วางอัลบั้มชุดนี้ออกจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา
BMTH ได้ทำการบันทึกเสียงสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 2 ของพวกเขาในสวีเดนกับ Fredrik Nordström โดยอัลบั้มชุดที่ 2 นี้มีชื่อว่า Suicide Season ซึ่งได้ทำการออกจำหน่ายเมื่อเดือนกันยายน 2008

ทางวงได้เริ่มต้นออกทัวร์อย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริการวมถึงการร่วมออกทัวร์ในรายการ Warped Tour ในปี 2008 ด้วย ทางวงBMTHได้ร่วมออกทัวร์กับวงต่างๆชื่อดังมากมายเช่น Mindless Self Indulgence, In Case of Fire, Black Tide and Dir en grey  ในรายการทัวร์ของ Kerrang! and Relentless ในปี 2009 ซึ่งเป็นทัวร์ที่เปิดทำการแสดงในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังออกทัวร์ในอเมริกาเหนือในปี 2009 กับหลายๆวงเช่น Thursday, Cancer Bats, Four Year Strong and Pierce the Veil on the Taste of Chaos ด้วยเช่นกัน

ในเดือนพฤศจิกายน 2009 BMTH ได้จัดทำอัลบั้มพิเศษซึ่งเป็นอัลบั้ม remixed version จากเพลงในอัลบั้ม Suicide Season ซึ่งในอัลบั้ม remixed version นี้มีนักดนตรีชื่อดังมากมายมาร่วมแจมประกอบไปด้วย Ben Weinman จาก The Dillinger Escape Plan, Sonny Moore, L’Amour La Morgue (Ian Watkins นักร้องนำจากวง Lostprophets), Utah Saints และ Shawn Crahan จากวง Slipknot

ในเดือนมีนาคม 2009 มือกีต้าร์ Curtis Ward ได้ลาออกจากลง และต่อมาทางวงก็ได้ Jona Weinhofen มือกีต้าร์จากออสเตรเลียมาเล่นแทน

เพียงแค่สัปดาห์แรกของการออกจำหน่ายสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 3 ติดอันดับที่ 17 ของชาร์ต Billboard 200 ในสหรัฐอเมริกา และติดอันดับ 13 ในสหราชอาณาจักร และติดอันดับที่ 1 ในออสเตรเลีย อันดับที่ 1ใน UK Rock Chart รวมทั้งอันดับ 1 ใน UK Indie Chart ด้วย แม้ว่าอัลบั้มชุดที่ 3 ของBMTHจะขึ้นสู่อันดับ 1 ในออสเตรเลียและขายได้ถึง 3600 ชุด แต่มันก็เป็นยอดขายที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ARIA charts

Nottingham incident เหตุเกิดที่ Nottingham
ในขณะที่ทางวงBMTHได้ออกทัวร์ในสหราชอาณาจักรนั้น มีการกล่าวหากันเกิดขึ้นว่านักร้องนำ Oliver Sykes ได้ปัสสาวะลงบนหน้าของของแฟนเพลงผู้หญิงคนหนึ่งรวมถึงได้มีการทำร้ายแฟนเพลงคนนั้นด้วยในงาน Nottingham Rock City หลังจากที่แฟนเพลงผู้หญิงคนนั้นปฏิเสธที่จะมีความสัมพันธ์ทางเพศกับนักร้องนำวงBMTH ต่อมา Sykes ก็ถูกจับกุมในข้อหาปัสสาวะใส่แฟนเพลงแต่ไม่ถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกาย 
มีการลือกันว่าทางวง BMTH ถูกแบนจากงาน Nottingham Rock City อย่างไรก็ตามทางต้นสังกัดของวงที่ชื่อ Visible Noise ได้ปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว และต่อมา BMTH ก็ได้ขึ้นทำการแสดงสดในงาน Nottingham Rock City เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2007
วันที่ 13 เมษายน Sykes ได้ไปขึ้นศาล Nottingham Magistrates Court ในคดีทำร้ายร่างกายที่เขาถูกกล่าวหาเพื่อที่เขาจะได้แก้ข้อกล่าวหาต่างๆว่าเขาไม่ได้กระทำผิด  การพิจารณาคดีของเขาได้ถูกเลื่อนออกไปจนกระทั่งช่วงต้นเดือนพฤษภาคม
วันที่ 3 พฤษภาคม 2007 Sykes ได้ไปให้การในชั้นศาลเป็นครั้งที่ 2 และเขาเองก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็นฝ่ายผิด คดีของเขาถูกเลื่อนออกไปอีกครั้งจนกระทั่งวันที่ 17 กันยายน Sykes ได้รับการยกฟ้องเนื่องจากว่าไม่มีพยานและหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดเขาได้


4.I See Star

เป็นวงร็อคอเมริกันอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้นในปี 2006 จากวอร์เรน, มิชิแกน เปิดตัวอัลบั้มของพวกเขา 3-D ที่โดดเด่นเป็นแขกรับเชิญจาก Bizzy กระดูกของกระดูกอันธพาล-n-ซื่อสัตว์. [1] อัลบั้มยอดเลขที่ 176 บนบิลบอร์ด 200 อัลบั้มที่สองของพวกเขาสุดท้ายของพรรคโลกเป็น ปล่อยออกมาในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ปี 2011 สตูดิโออัลบั้มของวงที่สามดิจิตอลทรยศได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2012 ดิจิตอลทรยศแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบที่มีสไตล์ดนตรีที่ก้าวร้าวมากขึ้นกว่าอัลบั้มก่อนของพวกเขา. [2] วงดนตรีก็ปรากฏขึ้นบน แทร็คที่เรียกว่า "ความงามและสัตว์เดรัจฉาน" โดยศิลปิน Dubstep เปลือย สตูดิโออัลบั้มของวงดนตรีสี่ปีศาจใหม่ได้รับการปล่อยตัวที่ 22 ตุลาคม 2013 ที่ปีศาจใหม่เป็นขั้นตอนเพิ่มขึ้นจากดิจิตอลทรยศเนื้อเรื่ององค์ประกอบของเพลงเต้นรำอิเล็กทรอนิกส์ (ปกติจะเรียกว่า EDM) ในขณะที่ประสบความสำเร็จในรูปแบบเชิงรุกมากขึ้นในการฟังเพลงเมื่อเทียบกับพวกเขา อัลบั้มก่อนหน้านี้




5. Hatebreed

เป็นวงดนตรีเมทัลจากคอนเนตทิคัขึ้นในปี 1994 เสียงของพวกเขาผสมข้ามแทรชกับพังก์ไม่ยอมใครง่ายๆ วงดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของฉากในช่วงต้นปี 1990 โลหะไม่ยอมใครง่ายๆพร้อมกับวงดนตรีอื่น ๆ เช่นวิกฤติโลกทั้งหมดออกไปทำสงครามความซื่อสัตย์และเป็นด่านหน้าของวง Converge.The ของเจมมี่ Jasta หมายถึงรูปแบบของวงดนตรีที่เป็น 'เซลติกฟรอสต์ไม่ยอมใครง่ายๆ


6. Agnostic Front 

เป็นครอสโอเวอร์อเมริกันหวดวง วงพังก์เริ่มเล่นไม่ยอมใครง่ายๆคล้ายกับโคตรของพวกเขาและได้รับการผลักดันไปที่หน้าของระเบียนที่เกิดเหตุไม่ยอมใครง่ายๆนิวยอร์กในกลางปี ​​1980 ที่มีการยอมรับอย่างกว้างขวาง 1984 เหยื่อคลาสสิกของพวกเขาในความเจ็บปวดก่อนที่จะผสมผสานองค์ประกอบแทรชเมทัลในเพลงของพวกเขา

7. The Amity Affliction 
เป็นวงดนตรีที่โพสต์ไม่ยอมใครง่ายๆ / เมทัลจากออสเตรเลีย Gympie รัฐที่เกิดขึ้นในปี 2003 ของวงดนตรีในปัจจุบันขึ้นบรรทัดประกอบด้วยทรอยเบรดี้ (กีตาร์), Ahren สน (กีตาร์เบสร้อง), โจเอลเบิร์ช (นักร้อง), ไรอันเบิร์ต (กลอง) และแดนบราวน์ (กีตาร์ริธึ่ม)ไมตรีทุกข์ได้ออกอัลบั้มที่สี่สตูดิโอตัดความสัมพันธ์ได้รับการปล่อยตัวในปี 2008 Youngbloods ในปี 2010 ซึ่งออกมาที่หมายเลข 6 ในชาร์ตเพลงและไล่ผีในปี 2012 ซึ่งออกมาที่หมายเลข 1 ในชาร์ตเพลง วันที่ 6 มิถุนายน 2014 พวกเขาก็ปล่อยสตูดิโออัลบั้มที่สี่ของพวกเขาให้มหาสมุทรพาฉันในประเทศออสเตรเลียนำโดยชาร์ตเพลงบน 40 ดอลลาร์ "พิตต์ส" และ "อย่าพึ่งพาฉัน" อัลบั้มได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนในสหราชอาณาจักรและ 10 มิถุนายนในสหรัฐอเมริกา

8. Creed
เป็นวงดนตรีอเมริกันแนวโพสต์-กรันจ์ จากทัลลาฮาสซี รัฐฟลอริดา ได้รับความนิยมในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1990 ถึงต้นยุคปี 2000 วงได้รับรางวัลแกรมมี่ในสาขาเพลงร็อกยอดเยี่ยมจากเพลง "With Arms Wide Open" ในปี 2001 จากนั้นแยกวงไปในปี 2004 หลังจากมียอดขายอัลบั้มได้มากกว่า 3 แผ่นเสียงทองคำขาว ด้วยยอดราว 35 ล้านชุดทั่วโลก ซึ่งขายได้ 26 ล้านชุดเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่านักดนตรีทั้งสามคนของวงและ สกอตต์ สแตปป์ จะยืนยันว่าวงคืออดีตไปแล้ว แต่ก็มีข่าวลือในช่วงปลายปี 2008 ว่าครีดมีแผนที่จะมารวมตัวกันใหม่ จนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของครีดออกมาประกาศวันการทัวร์คอนเสิร์ตในสหรัฐอเมริกาและแผนการออกอัลบั้มใหม่ที่ชื่อชุด


9. Linkin Park

เป็นวงดนตรีร็อกชาวอเมริกันจากอะกูราฮิลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ศิลปินแนว "นูเมทัล" (Nu-Metal) ด้วยบทเพลงน่าสนใจ ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของดนตรี เมทัล ฮิปฮอป อิเล็กทรอนิค อินดัสเตรียล และยังคงมีกลิ่นไอของฮิปฮอป ความเป็น ป็อป อยู่ด้วย ประสบความสำเร็จกับอัลบั้มเปิดตัว Hybrid Theory ด้วยยอดขาย 24 ล้านแผ่น และอัลบั้มที่ 2 Meteora ก็ขึ้นอันดับ 1 ในบิลบอร์ด เพลงฮิตที่เป็นที่รู้จัก เช่น In The End, Somewhere I Belong เป็นต้น ยังคว้ารางวัลแกรมมีมาแล้ว 2 ครั้งเมื่อปี 2002 และ 2006 และทำยอดขายมาแล้วถึง 60 ล้านชุดทั่วโลก รวมทั้งยังก่อตั้งองค์กร Music For Relief ร่วมกับสภากาชาติสากลเมื่อต้นปี 2005 เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อปลายปี 2004 และต่อต้านภาวะโลกร้อน


10. Asking Alexandria

มีจุดเริ่มต้นจากดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ซึ่งมือกีต้าร์ Ben Bruce เริ่มก่อตั้งวงและออกผลงานอัลบั้มเต็ม 1 ชุดกับสมาชิกในวงภายใต้ชื่อวงว่า Asking Alexandria  ต่อมาไม่นานนักก็มีการยุบวง โดย Bruce ได้ออกมาแถลงในวันต่อมาว่า วง Asking Alexandria นั้นจะเหลือแต่เพียงชื่อ ดังนั้นจะไม่มีการออกทัวร์แต่อย่างใด
ในปี 2008 Bruce ได้เดินทางกลับอังกฤษ โดยปล่อยให้สมาชิกคนอื่นๆในวงยังอยู่ในดูไบต่อไป อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น Bruce ยังไม่ได้วางแผนอะไรเกี่ยวกับอาชีพนักดนตรีของเขา แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตัดสินใจเริ่มต้นกับสมาชิกใหม่ภายใต้ชื่อวง Asking Alexandria เช่นเดิม โดย Bruce ได้เปิดเผยว่า ตัวเขาเองเป็นผู้หนึ่งที่คิดชื่อนี้ขึ้นมาและเขายังคงชื่นชอบชื่อและความหมายนี้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้ชื่อวง Asking Alexandria ต่อไป และเขายังเน้นย้ำอีกว่า วง Asking Alexandria ในปัจจุบันนั้น ไม่ใช่วงเดียวกับที่แต่ง The Irony of Your Perfection ดังนั้นพวกเขาจึงแตกต่างกันถึงแม้ว่าจะมีจุึดเชื่อมโยงของวงที่คล้ายกันอยู่บ้างก็ตาม แต่คำแถลงดังกล่าวก็ยังคงสร้างความสงสัยให้กับบรรดาแฟนเพลงทั้งหลายอยู่ดี
นับแต่ทางวงก่อตั้งในปี 2008 พวกเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงสมาชิกเพียงไม่กี่คนซึ่งได้เปลี่ยนแปลงจากสมาชิกวง 6 คนเป็น 5 คนโดย Ryan Binns ได้ลาออกจากวงไป รวมทั้งมือเบส Joe Lancaster ที่ลาออกไปเมื่อเดือนมกราคม 2009 โดยได้ Sam Bettley โดยทาง Lancaster ได้ขึ้นเล่นร่วมกับวงในการแสดงสดครั้งสุดท้ายของเขาที่งาน Fibers ในเมืองยอร์ค เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2009  หลังจากนั้นทางวงก็ได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อทำการโปรโมตผลงานของพวกเขารวมไปถึงการเตรียมตัวเพื่อบันทึกเสียงในงานสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของพวกเขาด้วย
หลังจากที่ใช้เวลาในการออกทัวร์ตลอดปี 2008 จนถึงช่วงต้นปี 2009 แล้วนั้น พวกเขาก็เริ่มบันทึกเสียงผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของพวกเขา โดยเริ่มบันทึกตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 16 มิถุนายน 2009 ที่ The Foundation Recording Studios ในเมือง Connersville รัฐอินเดียน่า สหรับอเมริกา โดยมีโปรดิวเซอร์ที่ชื่อ Joey Sturgis โดยพวกเขาได้สังกัดอยู่กับค่าย Sumerian Records และในวันที่ 15 กันยายน 2009 พวกเขาก็ได้ปล่อยผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของพวกเขาออกสู่หูของประชาชน โดยอัลบั้มชุดนี้มีชื่อว่า  Stand Up and Scream จากนั้นพวกเขาได้ทำการออกทัวร์ในอเมริการ่วมกับวงดังๆมากมายเช่น Alesana , Enter Shikari , The Bled and Evergreen Terrace เป็นต้น